เนื่องด้วยสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน ได้จัดกิจกรรมการจัดการความรู้ (KM) เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนที่ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ วันที่ 24 มกราคม 2557 เวลา 13.30 - 16.00 น. เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดการความรู้ (KM) ในประเด็นการพัฒนาการเรียน การสอน ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และ แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากความรู้ประสบการณ์ตรงและทักษะ ตลอดจนเพื่อนำความรู้ที่ได้มาเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี ที่สามารถนำมาใช้ใน การปฏิบัติงานจริงซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านจัดการเรียน การสอน ผู้บริหาร คณาจารย์และนักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 162 คน โดยได้ร่วมให้ความรู้ ข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไขปัญหาโดยมีประเด็นร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งสามารถสรุปเป็นความรู้ในประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้
หลักการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
1. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนการเรียนรู้
2. ผู้เรียนได้เรียนรู้ตรงกับความต้องการ ความสนใจ และความถนัดของตนเอง
3. ผู้เรียนมีโอกาสแสดงความรู้ความคิดออกได้อย่างอิสระ
4. ผู้เรียนได้ใช้ความคิด
และเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
5. ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสภาพจริงและได้รับประสบการณ์ตรง
6. ผู้เรียนได้ใช้สื่อต่าง
ๆ ที่หลากหลายในการเรียนรู้
7. ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นหรือได้ทำงานเป็นกลุ่ม
8. ผู้เรียนได้เรียนอย่างมีความสุข
9. การสอน
และการทดสอบสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
การเตรียมการสอน
1. อาจารย์ต้องศึกษาคำอธิบายรายวิชา
จัดทำ มคอ. 3 รวมทั้งศึกษา curriculum mapping
2. ต้องรู้เขารู้เรา
สอนวิชานั้น ๆ หรือไม่
ต้องศึกษาอะไรเพิ่มเติม ต้องรู้ว่าผู้เรียนเป็นใคร มี learning
style อย่างไร
3. ฝึกการใช้เทคนิคการ
talk show ร่วมในการสอนภาคบรรยาย
เพื่อให้บรรยากาศการบรรยายในการเรียนการสอนดูคึกคักสนุกสนาน เป็นการสร้างแรงจูงใจในการเรียนไม่น่าเบื่อ
การจัดการเรียนการสอน
1. การสอนในวิชาบรรยาย
ควรใช้วิธีการที่หลากหลายทั้งการบรรยายโดยอาจารย์ผู้สอนเอง
การใช้สื่อวีดีทัศน์จากเหตุการณ์จริงประกอบการบรรยาย
ให้นักศึกษาได้ทำการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
จากการชมวีดีทัศน์แล้ว ร่วมกันวิเคราะห์ความสอดคล้องกับเนื้อหาในบทเรียน
หรือนำเสนอหน้าห้องเรียน
2. การสอนในวิชาที่ต้องฝึกทักษะ
ควรให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติจริงให้มาก
3. ควรตั้ง
หรือ ยกตัวอย่างจากสิ่งที่ง่ายไปยาก หรือจากสิ่งที่เป็นรูปธรรมไปสู่นามธรรม
4. การสอนในวิชาปฏิบัติ
อาจารย์จะต้องจัดเตรียมขั้นตอนการดำเนินงานไว้ ให้นักศึกษา
สามารถตรวจสอบด้วยตนเองว่าดำเนินงานได้ถึงขั้นตอนใดแล้ว
มีขั้นตอนใดที่ตนเองยังทำไม่ได้ ก็ให้นักศึกษาทำความเข้าใจ
หรือทบทวนการดำเนินงานขั้นตอนนั้น ๆ ให้เข้าใจ จดจำ แล้วจึงไปฝึกปฏิบัติ ทำกระบวนการเช่นนี้ซ้ำ ๆ จนมั่นใจและปฏิบัติได้จริง
5. ให้นักศึกษาทำแบบฝึกทักษะท้ายบทและ
ให้นักศึกษา แบ่งกลุ่มกันทำงานเพื่อตรวจคำตอบ
6. อาจารย์ผู้สอนควรแทรกความรู้ด้านจริยธรรมวิชาชีพ ไม่ใช่แค่ความรู้ทางทฤษฎี
ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
การกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้
1. อาจารย์ผู้สอนควรสร้างแรงจูงใจ
หรือกระตุ้นให้นักศึกษาสนใจประเด็นเนื้อหาสาระในระหว่างเรียน
2. ทำการสอบย่อยทุกครั้งก่อนการสอนเพื่อเป็นการทบทวนบทเรียนที่เรียนผ่านมา
แล้วให้นักศึกษาตรวจสอบความถูกต้องและให้คะแนนด้วยตนเองก่อน อาจารย์ทำการตรวจสอบอีกครั้ง
และทำการอธิบายในส่วนที่ยังมีข้อผิดพลาดเป็นรายบุคคล
ทำให้นักศึกษามั่นใจในตนเองมากขึ้น และสามารถวิเคราะห์และอธิบายข้อผิดพลาดได้
ซึ่งข้อผิดพลาดเหล่านั้นก็จะ ลดน้อยลง
หรือไม่เกิดขึ้นอีก
การวัดผลประเมินผล
1. ควรนำ curriculum mapping มาประกอบการพิจารณากำหนดระดับคะแนนเก็บระหว่างภาค
และปลายภาค โดยกำหนดคะแนนตามจุดเน้นใน curriculum
mapping เช่น ให้ 5 คะแนน ให้ 2 คะแนนเป็นต้น
2. ทำการบันทึกกิจกรรมที่เสริมหรือกิจกรรมที่ให้นักศึกษาทำการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองไว้
ในตอนท้ายของแบบบันทึกคะแนน
3. ทำแบบบันทึกคะแนนโดยใช้
Microsoft excel เพื่อความสะดวกในการรวมคะแนน และนำไปใช้ร่วมกับ โปรแกรม new
grade หรือระบบตัดเกรด
online ของมหาวิทยาลัย อย่างเป็นระบบ
เพื่อให้ลดความผิดพลาดในการคำนวณคะแนนและค่าระดับคะแนนของนักศึกษาแต่ละคน
4. การส่งผลการเรียนให้กับสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน
ควรส่งผลการเรียนผ่านระบบ online เพราะระบบจะช่วยในการคำนวณ
และสามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐาน หรือใช้ตรวจสอบความโปร่งใส
ซึ่งอาจารย์ผู้สอนสามารถเข้าระบบดูได้เมื่อต้องการตรวจสอบในภายหลัง
รวมทั้งเป็นการลดปริมาณการใช้กระดาษลงจากการตัดเกรดระบบเดิม
5. การวัดผลและประเมินผลการศึกษา ควรใช้
authentic assessment โดยทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างอาจารย์ผู้สอนกับนักศึกษาในประเด็นสาระตามมาตรฐานการเรียนรู้แต่ละด้านที่กำหนดไว้
และการวัดนั้นต้องกำหนดค่าคะแนนและสิ่งที่ต้องวัดเชิงประจักษ์ให้ชัดเจน
6. ควรให้นักศึกษาเขียนสะท้อนผลการเรียนรู้
(Reflection) โดยให้เขียนภายหลังการสอนเป็นช่วย ๆ ว่า เขาได้เรียนรู้อะไร
ต้องการเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม หรือมีปัญหาในด้านใด ต้องการอะไร เป็นต้น
เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป
การทวนสอบ
1. การทวนสอบไม่ใช่การสอบปกติ
แต่เป็นการตรวจสอบการเรียนการสอนให้เป็นไปตามcurriculum mapping ที่ได้ระบุไว้ในเล่มหลักสูตร
การดำเนินการเป็นไปตาม มคอ. 3 หรือไม่ หรือนักศึกษาได้ องค์ความรู้ตามคำอธิบายรายวิชาหรือไม่ หรือเป็นไปตามสภาวิชาชีพของแต่ละสามขาวิชากำหนดไว้หรือไม่
2. กระบวนการทวนสอบให้ดำเนินการตามตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ในหมวด 7 ของหลักสูตร (มคอ.2 ) ให้ครอบคลุมรายวิชาอย่างน้อยร้อยละ 25
ของรายวิชาที่ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักสูตร TQF ที่เห็นชอบโดย สกอ. แล้ว โดยจัดทำในรูปคณะกรรมการบริหารหลักสูตรสาขาวิชา
และให้ทำการบันทึกข้อมูลผลการทวนสอบของแต่ละรายวิชาไว้ให้ชัดเจน
ปัญหา
อุปสรรคในการเรียนการสอน และแนวทางแก้ไข
1. ผู้สอนควรแจ้งเวลาเรียนให้นักศึกษาแต่ละคนได้ทราบว่าตนเองขาดเรียนแล้วกี่ครั้ง
เพื่อเป็นกระตุ้น
ย้ำเตือนไม่ให้ขาดเรียนหรือเป็นการเตือนให้นักศึกษาเกิดสำนักในคุณธรรม จริยธรรม
ตามมาตรฐานของหลักสูตรกำหนด แต่ละรายวิชา
2. ควรใช้กิจกรรมกระตุ้น
สร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับจรรยาบรรณในศาสตร์ในสาขาวิชาที่ตนเรียนอยู่ควรมีการแจ้งให้นักศึกษาทราบเป็นระยะว่า
นักศึกษามีคะแนนเก็บเท่าไหร่
เพื่อให้นักศึกษาสามารถใช้เป็นข้อมูลในการประเมินคะแนนผลการเรียนของตัวเองได้ล่วงหน้า
การขอแก้ไขผลการเรียนของนักศึกษา
1. ก่อนการสอบปลายภาค อาจารย์ผู้สอนแต่ละวิชา ควรแจ้งคะแนนเก็บระหว่างภาคให้นักศึกษาทราบก่อน
เพื่อให้นักศึกษาได้ประเมินตนเองก่อนการสอบปลายภาคการศึกษา และยังเป็นการแสดงความโปร่งใสในการให้คะแนนของอาจารย์
2. ภายหลังจากการตัดสินผลการเรียนของนักศึกษาในรายวิชาที่ผู้สอนแต่ละท่านรับผิดชอบไปแล้ว
อาจารย์ผู้สอนควรแจ้งผลการเรียนให้นักศึกษาดูที่ป้ายประกาศของสาขาวิชาต่าง ๆ
เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง
เพื่อให้นักศึกษาได้ตรวจสอบข้อมูลว่าผลการเรียนรายวิชานั้น ๆ
เป็นไปตามข้อมูลที่ได้รับการ feedback
ในห้องเรียนแต่ละครั้งหรือไม่ หรือเป็นไปตามที่ควรจะเป็นตามข้อตกลงระหว่างผู้เรียนและผู้สอนหรือไม่
และนักศึกษาจะได้ทำการทักท้วงกับอาจารย์ผู้สอนให้มี
การทบทวนหรือขอแก้ไขผลการเรียนอย่างเป็นระบบตามระเบียบและแนวปฏิบัติการขอแก้ไขผลการเรียน ที่ผิดพลาด ต่อไป
โทรศัพท์ : 0-5671-7119 หรือ
0-5671-7100 ต่อ 1121, 1122, 1129
โทรสาร : 0-5671-7120